แบบเรียนออนไลน์ ผลการเรียน ตารางสอบ คลิปการสอน แบบทดสอบ

คลังข้อสอบออนไลน์

ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอแม่พริก จังหวัดลำปาง
แบบทดสอบวิชา ทช31002 สุขศึกษา พลศึกษา
1)  ข้อใดไม่ใช่หลักการที่ดีในการออกกำลังกาย
  ออกกำลังกายให้เหนื่อยและหนัก
  ในกรณีอ่อนเพลีย ควรใช้ยากระตุ้นช่วย
  ออกกำลังกายกลางแจ้งหรือที่มีอาการถ่ายเทได้ดี
  คำนึงถึงสภาพร่างกายและความสนใจของตนเอง
   
2)  โรคติดต่อใดที่กรมอนามัยโลกได้กำหนดให้ประเทศ หรือเขตดินแดนติดต่อโรคดังกล่าว ต้องมีความแจ้งข่าว
  ไข้หัด
  ไข้หวัด
  ไข้เหลือง
  ไข้หัดเยอรมัน
   
3)  การปฏิบัติตนในข้อใดที่จัดเป็นพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ
  การเข้านอนหลังเวลา 22.00 น. ทุกวัน
  การนวดตนเองเมื่อมีอาการปวดกล้ามเนื้อ
  การรับประทานอาหารประเภทลาบก้อย หลู้เลือด
  การซื้อยาลดไข้มารับประทานเมื่อมีอาการไม่สบาย
   
4)  ข้อใดคือการรักษาโรคทาลัสซีเมีย
  ตัดม้ามเมื่อต้องรับเลือดบ่อย ๆ
  รับประทานวิตามินโฟลิควันละเม็ด
  รับประทานยาบำรุงเลือดที่มีธาตุเหล็ก
  ให้เลือดเมื่อผู้ป่วยซีดมากและมีอาการ ของการขาดเลือด
   
5)  ข้อใดคือความสำคัญของธุรกิจที่มีต่อการดำเนินชีวิต ของประชาชนทุกคน
  เกิดเทคโนโลยีใหม่ๆให้ทุกคนใช้สอย
  มีเงินทุนให้กู้ยืมโดยไม่คิดดอกเบี้ย
  ได้สิทธิละเว้นการเสียภาษี
  ช่วยลดปัญหาการว่างงาน
   
6)  ข้อใดเป็นข้อควรระวังในการใช้ยาปฏิชีวนะประเภท ยาเตตราไซคลีน
  ต้องรับประทานยาชนิดนี้พร้อมกับนมสด
  ควรใช้ยาในบุคคลที่มีอายุตั้งแต่ 7 ขวบขึ้น ไป
  คนท้องสามารถรับประทานยาได้ เพื่อบำรุงครรภ์
  ถ้ายาเปลี่ยนจากสีเหลืองเป็นสีเขียวห้ามใช้เด็ดขาด
   
7)  การออกกำลังกายแบบใดที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ
  เต้นโยคะ
  วิ่งทางไกล
  เต้นแอโรบิก
  ตีแบดมินตัน
   
8)  ข้อใดคือการรับประทานอาหารเพื่อการดูแลสุขภาพ ที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ
  เนื้อสัตว์
  ขนมไทย
  ผัก ผลไม้
  ขนมขบเคี้ยว
   
9)  ข้อใดเป็นวิธีการป้องกันตนเองเมื่อมีโรคติดต่อร้ายแรงระบาด
  หลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือไอ จาม รดกัน
  ป้องกันด้วยการล้างมือทุกครั้งที่สัมผัสผู้ป่วยโดยตรง
  แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขภายใน 30 วัน เมื่อพบโรคระบาด
  ควรได้รับวัคซีนป้องกันโรคก่อนออกจากแหล่งที่มีโรคติดต่อ
   
10)  โทษของผู้กระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี คือข้อใด
  จำคุกตั้งแต่สี่ถึงยี่สิบปี ปรับตั้งแต่แปดพันถึงสี่หมื่นบาท
  จำคุกตั้งแต่สองถึงยี่สิบปี ปรับตั้งแต่ห้าพันถึงสี่หมื่นบาท
  จำคุกตั้งแต่สามถึงยี่สิบปี ปรับตั้งแต่เจ็ดพันถึงสี่หมื่นบาท
  จำคุกตั้งแต่หนึ่งถึงยี่สิบปี ปรับตั้งแต่หกพันถึงสี่หมื่นบาท